Always Sunset On Third Street

       
        เริ่มบทความใหม่ด้วยปกของหนังญี่ปุ่นเรื่อง Always Sunset On Third Street หรือแปลเป็นไทยว่า ถนนสายนี้หัวใจไม่เคยลืม เป็นเรื่องราวของถนนสายหนึ่งในเมืองโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ที่เพิ่งผ่านช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นช่วงที่ญี่ปุ่นกำลังก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาใหม่ หลังจากการพ่ายแพ้ในสงคราม เนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนในซอย เจ้าของร้านซ่อมรถซูซูกิ ออโต้ (ผมไม่แน่ใจว่าใช้เจ้าของเดียวกับบริษัทซูซูกิ ที่เรารู้จักเหรอเปล่า...)ซึ่งได้รับเด็กหญิงที่เพิ่งเรียนจบมาทำงาน แต่ด้วยความที่มีการศึกษาน้อยของเจ้าของร้าน จึงอ่านใบสมัครผิดเข้าใจว่าเด็กหญิงคนนั้นซ่อมรถที่ใช้เครื่องยนต์เป็น ทั้งๆที่ในใบสมัครเขียนไว้ว่าซ่อมรถจักรยาน จากความเข้าใจผิดนำไปสู่ความผูกพันธ์ที่ดูแล้วต้องน้ำตาไหลตามมา  เรื่องของหนุ่มนักประพันธ์ที่มีความฝันอยากเขียนวรรณกรรมที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน ด้วยความหวังจะสร้างเด็กให้มีความคิดสร้างสรรค์ และรักการอ่าน แต่โชคไม่ดีที่วรรณกรรมของเขาที่ส่งไปทุกเดือน ไม่เคยได้รับรางวัลอะไรกับคนอื่นเขาเลย โชคชะตาพาให้เขามาพบกับเจ้าของร้านเหล้าซึ่งเคยเป็นนางรำมาก่อน และต้องมาเลี้ยงลูกให้เพื่อนที่เคยเป็นนางรำด้วยกัน แต่เธอได้ทิ้งลูกไปมีสามีใหม่ ด้วยความสามารถของเจ้าของร้านเหล้า ทำให้นักประพันธ์หนุ่มจำใจต้องรับเด็กผู้ชายคนนั้นมาเลี้ยง จากความรู้สึกรำคาญที่ต้องดูแลคนไม่รู้จัก นานวันเข้าเริ่มกลายเป็นความรักความห่วงใย โดยเฉพาะเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเด็กคนนั้นชอบอ่านนิยายของเขา และแต่งนิยายของตัวเองด้วย...แล้วเรื่องราวที่น่าประทับใจต่างๆก็ตามมา ^^
        เรื่องย่อๆที่สรุปมาจากใจความที่ผมรับรู้ได้จากการดูหนังเรื่องนี้ มันเป็นหนังที่ดีมากๆ มากจนผมเผลอร้องไห้ไปหลายยก กับความซึ้งกินใจของเนื้อเรื่อง ด้วยความเป็นคนชอบดูพระอาทิตย์ตกอยู่แล้ว หนังเรื่องนี้ทำให้ผมชอบพระอาทิตย์ตกและประเทศญี่ปุ่นเข้าไปกันใหญ่...จะต้องหาโอกาสไปทำความรู้จักกับญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิดให้ได้... สำหรับคนที่ยังไม่เคยดู ผมขอแนะนำแกมบังคับให้ไปลองหามาดูกันนะครับ รับรองว่า ไม่ผิดหวังแน่นอน อีกอย่างที่ผมอยากแนะนำก็คือให้หาทิชชูมาวางไว้ข้างๆด้วย เพราะคุณอาจจะน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว
        พูดถึงพระอาทิตย์ตก ธรรมดาของคนถ่ายภาพ การถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกสำหรับผมต้องใช้เวลาพอสมควร มันทำให้คนที่ไปด้วยกันเกิดอาการเบื่อหรือเซ็งได้ในบางครั้ง ว่าจะถ่ายอะไรกันนักกันหนา ผมว่าพวกเค้าคงไม่เข้าใจหรอกถ้าไม่ลองมาถ่ายด้วยตัวเอง และผมก็ไม่อยากอธิบายซะด้วยสิ... แต่ความประทับใจครั้งนึงของผมคือการได้นั่งดูพระอาทิตย์ตกกับเพื่อนสนิท สมัย ม. ปลาย   
หลังจากมีโอกาสได้กลับบ้านในช่วงปีใหม่ ก็เลยถือโอกาสชวนเพื่อนๆมาสังสรรกันในตัวเมืองกระบี่โดยผมรับหน้าที่เป็นโชเฟอร์ขับรถไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายมาเจอวิวสวยๆริมชายหาดคลองม่วง ตอนนั้นพระอาทิตย์กำลังจะตกแล้ว เราเลยชวนกันถ่ายรูป นั่งคุย จิบเบียร์ และชื่นชมพระอาทิตย์ตกไปด้วยกัน เป็นบรรยากาศที่ผมประทับใจมากครั้งนึงในชีวิตของการนั่งมองพระอาทิตย์ตก ผมว่าการได้นั่งมองพระอาทิตย์กับคนที่รู้ใจ คนที่เราสนิท มันช่วยเพิ่มความหมายของตอนนั้นได้มากเลยทีเดียว แล้วมันก็ทำให้รูปพระอาทิตย์ตกธรรมดามีค่าขึ้นมากเลยครับ...




Comments

Popular posts from this blog

"เรือนไทย" มหิดลศาลายา

ตรามหาวิทยาลัยมหิดล

วันเคียงที่เชียงดาว ตอนที่ 1