ชีวิตในสวนลุมฯ
สวนลุมพินี สวนสาธารณะแห่งแรกของประเทศไทย สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๗ จากที่ดินเดิมที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานสำหรับสร้าง "สยามรัฐพิพิธภัณฑ์" เพื่อจัดแสดงสินค้าไทยเป็นครั้งแรก และจัดให้เป็น "สวนสาธารณะ" สำหรับประชาชน พร้อมทั้งพระราชทานนามว่า "สวนลุมพินี" ซึ่งเป็นชื่อสถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้าในประเทศเนปาล แต่พระองค์เสด็จสวรรคตก่อนจึงไม่แล้วเสร็จ ข้อมูลจาก : http://th.wikipedia.org
ด้านหน้าของสวนลุมพินีคือลานพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผมไปถึงประมาณห้าโมงครึ่ง ตอนนั้นยังหามุมอยู่ว่าจะเริ่มถ่ายจากมุมไหนดี ก็เห็นช่องของตึกที่ตรงกับทิศตะวันตกพอดีเลยพยายามถ่ายอยู่พักใหญ่ จนสายตามาสนใจกับพระบรมรูปของรัชกาลที่ ๖ เข้า เลยมีความคิดว่า ถ้าลองถ่ายจากด้านหลังพระองค์ท่าน คงได้ภาพที่น่าสนใจดี ตั้งใจจะให้เป็นภาพย้อนแสง บวกกับแสงของท้องฟ้ายามพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน สวยงามมากครับ
ภาพนี้เป็นภาพแรกที่ผมถ่าย ที่จริงไม่อยากได้นายแบบซักเท่าไหร่ แต่พี่สองคนเดินเข้ามานั่งหน้ากล้องพอดี จะบอกให้พี่เค้าขยับให้ซักหน่อยก็เกรงใจ ผมเลยเอาพี่เค้าสองคนเป็นนายแบบไปด้วยเลย^^ มุมนี้เป็นมุมที่สวยมากอีกมุมนึงครับ ผมว่าการได้คนเข้ามาอยู่ในภาพด้วย ช่วยเติมเต็มเรื่องราวให้ภาพได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพราะผมลองถ่ายภาพที่ไม่มีคนอยู่ มีแต่ตึกกับแสงของท้องฟ้า มันเหมือนขาดความมีชีวิตไปครับ ที่จริงผมอยากแก้ให้ตึกตรงด้วย แต่ลองพยายามแล้วภาพออกมาสัดส่วนมันเพี้ยนเลยไม่แก้ดีกว่า ปล่อยให้มันเอียงแบบนี้ผมก็ว่ามันสวยดี
หลังจากถ่ายภาพข้างยนเสร็จผมก็โดนบังคับให้ต้องสนใจกับเสียงของคนที่มาเต้นแอโรบิค อย่างหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าที่สวนลุมฯแห่งนี้ไม่เหมือนสวนสาธารณะอื่นที่ผมเคยไปมาก็คือ คนที่เต้นแอโรบิคที่นี่มีความสุขมาก ไม่ได้เต้นตามคนนำอย่างเดียว พวกเค้าส่งเสียงร้องเพลง คอยบอกท่าเต้น เหมือนกับได้ปลดปล่อยอารมณ์ที่เก็บกักเอาไว้จากการทำงานมาทั้งวัน ซึ่งผมรู้สึกว่าเป็นอะไรที่ดีมากๆเลย ถ้าใครสนใจในการออกกำลังกาย และอยู่ไม่ไกลจากสวนลุมมากนัก ผมแนะนำว่าให้ลอง,kเต้นแอโรบิคที่นี่ครับ... แล้วคุณจะติดใจ^^ ส่วนสาวน้อยในภาพคนนี้คงไม่อยากเต้นซักเท่าไหร่ เทอเลยมานั่งเป็นนางแบบให้ผมแทนครับ ฮ่าๆๆ
ภาพนี้พยายามถ่ายเด็กน้อยสองคนท่ามกลางคนที่เต้นแอโรบิค ภาพมันดูมีรายละเอียดเยอะมาก ผมเลยใช้เทคนิค Dodge and Burn เพื่อทำให้น้องเค้าเด่นขึ้นมา แต่ว่า...เพราะเพิ่งหัดทำครั้งแรก ภาพเลยออกมาเป็นแบบนี้ครับ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็ต้องฝึกกันต่อไปครับ เพราะเทคนิค D&B นี้เป็นเทคนิคสำคัญของคนที่ชอบถ่ายภาพขาวดำเลยทีเดียวครับ
กลับมาที่สระน้ำอีกครั้ง รอบๆสระนี่มีอะไรให้ถ่ายเยอะแยะไปหมด หลังจากเดินออกมาจากบริเวณที่เต้นแอโรบิค ผมก็ต้องวางขาตั้งกล้องลงตรงนี้ เพราะว่ามันได้อารมณ์มากครับ ปิ๊กนิคตอนหัวค่ำ เด็กบ้านนอกอย่างผมไม่เคยทำมาก่อน ^^ การเปลี่ยนบรรยากาศจากการกินข้าวที่บ้านหรือที่ร้านอาหารมานั่งกินลม ชมวิว และทานอาหารกับครอบครัวที่ริมสระน้ำของสวนลุมตอนค่ำๆก็โรแมนติกไปอีกแบบครับ ภาพนี้ได้ต้นไม้ใหญ่สองต้นช่วยเป็นกรอบให้...สวยงามครับ^^
ไม่ใกล้ไม่ไกล ผมหันไปด้านซ้ายของภาพเมื่อกี้ ก็เห็นคู่นี้เค้านั่งกันอยู่ เลยขอซักรูปแล้วกันครับ โรแมนติกมากๆเลย อิอิ
ภาพสุดท้าย ถ่ายคนมาเยอะแล้ว ขอถ่ายวิวบ้าง ภาพนี้ผมเปิดหน้ากล้องไว้ 30 วินาที เลยได้ผืนน้ำที่เรียบเหมือนกระจก มีเรือด้านขวาเกินมานิดหน่อย น่าจะใช้ ps ลบออกไปจะทำให้ภาพสมบูรณ์แบบกว่านี้ครับ กังหันน้ำชัยพัฒนายังลอยเด่นอยู่กลางสระน้ำ แนวคิดของพระองค์ท่านลึกซึ้งและใช้ประโยชน์ได้ครับ ผมคิดว่าผมโชคดีมากๆที่ได้เกิดบนแผ่นดินไทย ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากร และมีพระมหากษัตริย์ที่ทรงห่วงใยราษฎรของพระองค์ท่านมากมายถึงเพียงนี้
สุดท้ายนี้อยากฝากให้ทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านบล็อกของผมถ้ามีโอกาสอย่าลืมแวะไปเที่ยวสวนลุมฯนะครับ ตอนเย็นซักห้าโมงหกโมงกำลังดี ผมไม่แน่ใจว่าปิดกี่โมง...ลองไปดูครับ แล้วคุณจะพบว่ากลางเมืองใหญ่ก็ยังมีที่ที่สงบ ให้เราพักกาย ผ่อนใจ และคลายความเครียดอยู่เหมือนกันครับ : )
Comments
Post a Comment